แบตเตอรี่ ขุมพลังไฟฟ้าทำหน้าที่เก็บกระแสไฟฟ้าจากแล่งกำเนิดกระแสไฟฟ้าและจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่มีอยู่ในบ้านคุณไม่ว่าจะเป็นวิทยุพัดลม โทรทัศน์ แต่เมื่อใช้ไปนานๆ แบตเตอรี่จะเริ่มมีปัญหาเพราะ น้ำยาอิเล็คโตรไลด์หรือที่เราเรียกกันง่ายๆว่าน้ำกลั่นบริสุทธิ์ที่อยู่ในแบตเตอรี่จะลดลงต่ำกว่าระดับที่ถูกต้องทั่วไป ดังนั้นเราจึงต้องหมั่นตรวจสอบคอยเช็คน้ำกลั่นว่าอยู่ในระดับที่ถูกต้องหรือไม่ ถ้าลดลงก็ให้เติมน้ำกลั่นกลับเข้าไปให้อยู่ในระดับที่ถูกต้อง เพราะไม่เติมน้ำกลั่นอายุการทำงานของแบตเตอรี่จะสั้นลง
การที่จะตรวจเช็คน้ำกลั่นในแบตเตอรี่นั้นก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่เปิดฝาจุกด้านบนที่หม้อแบตเตอรี่ทำการตรวจว่าระดับน้ำกลั่นลดลงหรือไม่ ถ้าปริมาณน้ำกลั่นลดลงก็ให้เติมน้ำกลั่นลงไป โดยจะต้องให้ท่วมแผ่นทองแดงขึ้นมาประมาณ 10-15 มิลลิเมตร แต่ในกรณีที่ท่านใดเบื่อการเติมน้ำกลั่นลงหม้อแบตเตอรี่แล้วล่ะก็มีอีกทางให้เลือก คือใช้แบตเตอรี่ที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นหรือที่รู้จักกันในนาม“แบตเตอรี่แห้ง”อายุในการใช้งานก็พอๆกับแบตเตอรี่ธรรมดาที่เติมน้ำกลั่นแต่มีข้อเสียอยู่อย่างเดียว คือ แบตเตอรี่แห้งจะมีราคาแพงกว่ามากยังไงถ้าจะเลือกใช้ก็พิจารณาตามความจำเป็นและงบประมาณในกระเป๋าก็แล้วกัน
เราก็มาว่ากันต่อในเรื่องของน้ำกลั่นการที่จะเลือกน้ำกลั่นมาเติมแบตเตอรี่ควรจะเลือกน้ำกลั่นบริสุทธิ์ที่ใช้เติมกับแบตเตอรี่โดยเฉพาะแต่เมื่อเกิดเหตุการณ์คับขันหาน้ำกลั่นไม่ได้จริงๆ ก็สามารถใช้น้ำประปาสะอาดแทนได้ (แต่ไม่แนะนำให้ใช้)น้ำกลั่นจะหาซื้อได้ตามปั้มน้ำมันหรือร้านขายแบตเตอรี่
ขั้นตอนการเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่
1.เปิดฝาจุกด้านบนของหม้อแบตเตอรี่ให้หมด
2.เช็คดูว่าทุกช่องน้ำกลั่นอยู่ในระดับที่ถูกต้องหรือไม่
3.ถ้าลดลงจนไม่ท่วมแผ่นทองแดงให้เติมน้ำกลั่นลงไปในช่องที่น้ำกลั่นลด
4.เติมน้ำกลั่นโดยให้ท่วมแผ่นทองแดงประมาณ 10-15 มิลลิเมตร
5.อย่าเติมน้ำกลั่นให้ล้นออกมาจากหม้อแบตเตอรี่
6.ถ้าน้ำกลั่นหกเลอะออกมานอกหม้อแบตเตอรี่ให้รีบนำผ้ามาเช็ดให้แห้งทันที
7.เมื่อเติมเสร็จเรียบร้อยให้ปิดจุกฝาทุกฝาให้เรียบร้อย
นอกเหนือจากการตรวจเช็คเติมน้ำกลั่นแล้วการดูแลรักษาแบตเตอรี่ในส่วนอื่นๆก็สำคัญไม่แพ้กันอย่างเช่นในส่วนของขั้วแบตเตอรี่ทั้งขั้วบวกและขั้วลบปัญหาที่เกิดขึ้น คือ ขี้เกลือขึ้นบริเวณขั้วทั้ง 2 ข้างของแบตเตอรี่ รวมไปถึงสิ่งสกปรกอื่นที่ติดเป็นคราบถ้าพบเห็นให้รีบทำความสะอาดโดยทันที เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นสาเหตุทำให้การจ่ายกระแสไฟไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอจุดต่างๆที่ต้องตรวจสอบอีก คือ ขั้วสายไฟที่ต่อแบตเตอรี่หลวมหรือไม่ฝาปิดช่องเติมน้ำกลั่นหมุนเกลียวแน่นหรือเปล่าตรวจเช็คว่ามีรอยรั่วของหม้อแบตเตอรี่หรือไม่ ถ้ามีต้องรีบแก้ไข
ข้อเเนะนำเพิ่มเติม แบตเตอรี่
1.ควรทำความสะอาดหม้อแบตเอตรี่บริเวณรอบๆ ตัวแบตเอตรี่ ทุกๆ 6 เดือน โดยใช้แอมโมเนียเช็ดทำความสะอาด
2.ควรถอดขั้วแบตเอตรี่และทำความสะอาดทุกๆ 3 เดือน
3.อย่าให้โลหะอย่างเช่น ไขควง ประแจ โดนขั้วแบตเตอรี่ เพราะอาจจะทำให้เกิดประกายไฟได้