หลอดไฟ LED เริ่มเข้ามามีบทบาทในหลากหลายอุตสาหกรรม รวมไปถึงการกำเนิดแสงส่องสว่างภายในอาคารและบ้านเรือน ซึ่งข้อดีของหลอดไฟ LED นั้นมีมากมายจนไม่ควรที่มองข้าม ทั้งในแง่ประโยชน์ในการใช้งานและการประหยัดพลังงานที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้แทนที่เทคโนโลยีการให้แสงส่องสว่างแบบเดิมๆที่เราใช้กันอยู่ทั่วไป ถ้าคุณยังใหม่กับคำว่าแอลอีดีและลังเลที่จะทำความรู้จักกับ LED แล้วหละก็… ผมเชื่อว่าบทความนี้จะช่วยอธิบายให้คุณเข้าใจหลอด LED มากขึ้นจนคุณอาจจะอยากเปลี่ยนหลอดไฟในบ้านคุณให้กลายเป็นเทคโนโลยีใหม่อย่าง LED แน่นอนเลยหละ
อะไรคือหลอด LED
แอลอีดีคือไดโอดชนิดเปล่งแสง ไม่ได้มีรูปทรงแบบหลอด แต่เรียกนำหน้าชื่อว่า “หลอดแอลอีดี” อย่างที่เคยชินกับหลอดไฟประเภทเก่า เป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จำพวกสารกึ่งตัวนำรูปแบบไดโอด โดยปกติไอโอดเป็นชิ้นส่วนเพื่อออกแบบและควบคุมทิศทางการไหลของประจุไฟฟ้า แต่ด้วยความอเนกประสงค์ในโครงสร้างของไดโอด จึงทำให้ดัดแปลงใช้งานได้หลากหลายรูปแบบในโลกของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการให้กำเนิดแสงสว่างด้วย จุดเด่นหลักคือการกำเนิดแสงในรูปแบบให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านสารกึ่งตัวนำ ต่างจากหลอดไส้หรือหลอดตะเกียบที่ใช้เทคนิคกำเนิดความร้อนเพื่อกระตุ้นก๊าซในหลอดแก้วหรือใช้การเผาไหม้ใส้ทังสเตนในหลอดเพื่อให้เกิดแสงสว่าง แอลอีดีจึงมีขนาดชิ้นส่วนที่เล็กมากกว่าหลอดไฟปกติมากๆ (เล็กสุดในระดับ 1 มิลลิเมตร) และอายุการใช้งานสูงกว่าเพราะความร้อนต่ำมากแอลอีดีถูกประดิษฐ์และนำมาใช้งานจริงใน ค.ศ. 1962 โดยบริษัท GE (General Electric) ช่วงแรกนั้นมักใช้เป็นตัวส่งแสงอินฟราเรดเพื่อการสื่อสารไร้สาย ดั่งที่พบเห็นได้ในรีโมตคอนโทรล หรือไฟแสดงสถานะในเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเช่นนาฬิกาดิจิตอล เพราะข้อจำกัดในการกำเนิดแสงเฉดสีและของเทคโนโลยีแอลอีดีในสมัยนั้นค่อนข้างจำกัด
สำหรับการใช้งานทำหน้าที่ให้แสงส่องสว่างทดทนหลอดไฟแบบเดิมในอดีตนั้นอุตสหกรรมแอลอีดีก็ได้ผลิตสินค้าหลากหลายรูปแบบเพื่อใช้งานทดแทนหลอดไฟแบบเดิมแทบจะทุกรูปแบบที่มี ไม่ว่าจะเป็น Socket แบบ E27, หลอดฟลูออเรสเซนต์, หลอดนีออน ก็สามารถหาซื้อหลอด LED รูปแบบนั้นๆมาเสียบใช้ทดแทนภายในบ้านหรือสำนักงานได้ทันที โดยไม่ต้องเปลี่ยนโคมไฟหรือรางไฟแบบเดิมแต่อย่างใด วางแผนมาเพื่อทดแทนหลอดไฟแบบเดิมๆได้ลงตัวขนาดนี้แล้วเรามาดูกันดีกว่าว่าข้อดีของหลอดไฟ LED จะตรงตามความต้องการของคุณจนต้องไปหาหลอด LED มาแทนหลอดไฟแบบเดิมที่ใช้งานอยู่หรือไม่ ???
หลอด LED ให้ความสว่างเท่ากันแต่กินไฟน้อยกว่า
มาเริ่มกันที่ประเด็นหลักของหัวข้อบทความนี้ของเรากันดีกว่า… “หลอด LED กินไฟน้อยลงแต่สว่างมากขึ้น จริงหรือ ???” ผมได้ลองทำตารางเปรียบเทียบอัตราการกินไฟของหลอดไฟชนิดต่างๆมาให้เห็นกันชัดๆดังภาพอธิบายด้านบน ที่เปรียบเทียบปริมาณการกินไฟของหลอดแต่ละชนิดที่ให้ความสว่างเท่ากันซึ่งพอจะสรุปได้คร่าวๆว่าแอลอีดีที่จำหน่ายตามท้องตลาด มีค่าวัตต์ความสว่างสูงเทียบเท่าหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์(หลอดตะเกียบ) และหลอดทังสเตน (หลอดไส้) ในปริมาณวัตต์ไฟฟ้าที่น้อยกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญ ดั่งจะเห็นได้ชัดในแอลอีดี 18 วัตต์ ให้ค่าความสว่างเท่ากับหลอดไส้แบบ 180 วัตต์ กินไฟต่างกันถึง 10 เท่าเลยทีเดียว !!! (ในทางเทคนิค)
องศาของลำแสง (Beam Angle) ที่แคบกว่าหลอดแบบอื่นๆ
แสงส่องสว่างที่ออกจากหลอด LED จะมีลักษณะพุ่งตรงเป็นลำแสงไม่ค่อยมีการกระเจิงของแสง ทำให้แสงที่ได้จากหลอดไฟ LED นั้นจะครอบคลุมพื้นที่ไม่กว้างเท่าหลอดไฟแบบอื่นๆ แต่สำหรับการใช้งานที่ต้องการพื้นที่ความสว่างครอบคลุมในวงกว้างผู้ผลิตได้พัฒนาโดมครอบขึ้นมาเพื่อให้ทิศทางแสงของหลอด LED นั้นกระจายตัวเป็นวงกว้างได้ดียิ่งขึ้นแต่ก็คงต้องยอมรับว่าไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างเท่ากับหลอดแบบฮาโลเจน, ฟลูออเรสเซนต์ หรือทังสเตน แต่ก็กลายเป็นข้อดีที่มีลักษณะเฉพาะตัวของหลอดไฟ LED สำหรับใช้ในงานที่ต้องการควบคุมทิศทางแสงเช่นกัน
เทียบความสว่างที่เท่ากัน
หลอดไส้กินไฟประมาณ 5 เท่าของหลอดฟลูออเรสเซนต์
หลอดฟลูออเรสเซนต์ (60 ลูเมนต่อวัตต์) กินไฟ 2 เท่าของหลอด LED (120 ลูเมนต่อวัตต์)
ดังนั้นหลอดไฟ LED จึงเป็นทางเลือกที่ฉลาดกว่า เพราะกินไฟเพียงครึ่งของหลอดตะเกียบประหยัดไฟ
https://www.wemall.com/blog/1178/led-101#top_ankor